อาหารจานหมูตำรับนี้มีรสหวานกะทิ กลมกล่อม ไม่เผ็ดถึงแม้จะใส่พริก มีกลิ่นหอมของใบโหระพาและใบมะกรูด เป็นตำรับของคุณแม่สามี วิธีทำก็ง่ายมากและอร่อยด้วย
เหตุใดจึงเป็นหมูเต้นรำ เข้าใจว่าคงเป็นเพราะมันดูเหมือนเป็นเนื้อหมูกำลังเยื้องกายอยู่บนฟลอร์ในงานลีลาศ ท่ามกลางบรรยากาศที่มีสีแดง เขียว เหลือง และใบไม้ที่มาประดับ อันนี้ลืมถามท่าน เลยเดาเอาเองค่ะ
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
– หมูส่วนสะโพก 250 กรัม หั่นบาง หมักกับน้ำปลาดี 2 ช้อนชา ประมาณ 1 ชั่วโมง
– พริกเหลือง แดง เขียว 4 เมล็ด ผ่าตามยาว แกะเม็ดออก และหั่นแฉลบ
– ใบโหระพา 1 ถ้วย
– ใบมะกรูด ประมาณ 5 ใบ ฉีกเป็นชิ้นเล็ก
– กะทิ 1 กล่องเล็ก (ประมาณ 1 ถ้วย)
– น้ำปลาดีสำหรับปรุงรส ประมาณ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำส้มสายชู 1 ½ ช้อนชา
วิธีทำ
1. เทกะทิครึ่งกล่องลงในหม้อหรือกะทะ (แล้วแต่สะดวก) ตั้งไฟให้เดือด แล้วนำหมูลงไปรวนจนสุก
2. เติมน้ำลงไปปริมาณ 2 เท่าของกะทิ แล้วเคี่ยวไฟกลางไปเรื่อยๆ จนหมูนุ่ม และกะทิงวดลงเหลือเท่าเดิม (หากหมูยังไม่นุ่ม ให้เติมน้ำลงอีก และเคี่ยวต่อ)
3. ใส่น้ำปลาดี น้ำตาลมะพร้าว และน้ำส้มสายชู เติมกะทิที่เหลือ แล้วชิมดู ให้ออกรสจัดๆ แต่ไม่ออกรสเปรี้ยวชัดเจนนัก เพราะเราใช้น้ำส้มสายชูเพื่อแต่งรสให้กลมกล่อมเท่านั้นค่ะ (ที่ต้องให้รสจัดไว้ก่อนเพราะว่าเมื่อเราใส่พริกและใบโหระพา รสจะอ่อนลงไปอีก)
4. ใส่พริกและใบมะกรูดฉีก เมื่อเดือดอีกครั้ง จึงใส่ใบโหระพา คนให้เข้ากัน แล้วยกลงเลยค่ะ
หมายเหตุ อาหารหมูจานนี้ หากใช้หมูส่วนสันคอ ควรเลาะไขมันออกไปก่อนค่ะ มิฉะนั้นจะมันเลี่ยนเกินไป
หากต้องการรสเผ็ดให้ใส่พริกขี้หนูสับหยาบหรือทั้งเมล็ดลงไปด้วย ปริมาณตามชอบเลยค่ะ
เกร็ดความรู้
กะทิ เป็นวัตถุดิบในการทำน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็นโดยไม่ผ่านความร้อน (Virgin coconut oil) ปัจจุบันนี้ยอมรับกันทั่วไปว่า เป็นอาหารสุขภาพหลังจากที่เป็นผู้ร้ายมานาน เพราะถูกนำไปแปรรูปเป็นไขมันทรานส์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร
น้ำมันมะพร้าว ประกอบด้วยกลุ่มกรดไขมันที่มีขนาดสายยาวปานกลาง ซึ่งร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที ไม่สะสมเป็นไขมันตกค้าง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่ม HDL (High density lipoprotein) ที่มีหน้าที่ขนถ่าย Cholesterol ส่วนเกินเพื่อไม่ให้ไปจับผนังหลอดเลือดอีกด้วย
รวน เป็นวิธีการทำอาหารโดยนำเนื้อสัตว์สดๆ ไปหั่นเป็นชิ้นแล้วทำให้สุกโดยการคั่วเพื่อเก็บไว้ทำอาหาร ซึ่งในสมัยหลายสิบปีก่อนโน้นที่ยังไม่มีตู้เย็นใช้กัน ก็ใช้วิธีรวนนี้ในการทำอาหารให้สุกก่อน เพื่อเตรียมไว้ใช้ประกอบอาหารในวันอื่น